วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559

เตยหรือหลิ่น

                เตยหรือหลิ่น


                           


     การละเล่นเตยหรือหลิ่น 
 เรื่องของการละเล่นที่มีอยู่ในประเทศไทยเรานั้น เนื่องจากว่ามีการละเล่นที่หลากหลาย ทั้งเป็นการละเล่นพื้นบ้านหรือว่าเป็นการละเล่นที่มีอย่างแพร่หลาย ทำให้คนเราไม่สามารถที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของการละเล่นได้ทุกอย่างค่ะ ซึ่งมีหลายคนที่อาจจะคุ้นเคยกับการละเล่นของท้องถิ่นตัวเองบ้างแล้ว แต่สำหรับหลายคนเรื่องของการละเล่นอาจจะไม่รู้จักเลยก็ได้ เนื่องจากว่าไม่ค่อยจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับการละเล่นของท้องถิ่นสักเท่าไหร่ แต่การละเล่นที่เด็กๆอาจจะรู้จักกันดีบ้างนั้นก็มีมากมายเช่นกัน อย่างเช่นการละเล่นเตยหรือว่าหลิ่นนั้นเอง
สำหรับการละเล่นเตยหรือว่าหลิ่นนั้นก็สามารถที่จะเล่นได้ตามสถานที่เล่น ที่มีลานกว้าง ที่โล่งแจ้งสามารถวิ่งได้อย่างคล่องตัว และชาวจังหวัดตากก็ได้มีการละเล่นนี้มาอย่างยาวนานเมื่อเวลาได้ดำเนินมาจนถึงปัจจุบันการละเล่นเตยหรือว่าหลิ่นก็ได้มีการขยายและเป็นที่รู้จักกันอย่างกวางขวางกว่าเดิมด้วยเช่นกันค่ะ เด็กๆที่ต้องการจะเล่นก็สามารถที่จะเล่นได้ตามความต้องการทุกเมื่อด้วยเองจากว่าเป็นการเล่นที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆสำหรบการเล่นเลย จำนวนผู้เล่นก็จะเล่นได้ครั้งละประมาณ ๖-๑๒ คน เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายได้ การละเล่นเตยหรือว่าหลิ่นเป็นการละเล่นที่จะทำให้ผู้เล่นได้มีความสามัคคีในหมู่คณะที่เล่น อีกทั้งยังได้ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันด้วย เด็กหลายคนได้รับไหวพริบจากการละเล่นนี้ เนื่องจากว่าต้องใช้ความรวดเร็วและก็จังหวะที่ดีในการเล่นด้วยเช่นกัน สามารถที่จะเล่นได้หลายคนและก็ยังเป็นการละเล่นที่สร้างความสนุกสนานได้ทั้งผู้เล่นและก็สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่คอยลุ้นคอยเชียร์อีกด้วย การละเล่นที่มีความสนุกสนานเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เราคนรุ่นหลังต้องมีการอนุรักษ์ไว้ เพื่อที่จะได้สืบทอดต่อไปชั่วลูกหลาน
               
    ผุุู้เล่นและอุปกรณ์
จำนวนผู้เล่น ๖-๑๒ คน

    วิธีการเล่น
ขีดเส้นเป็นตารางจำนวนเท่ากับผู้เล่น (สมมติว่ามี ๖ คน) แล้วแบ่งผู้เล่นออกเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งยืนประจำเส้น (ตามขวาง) อีกฝ่ายจะวิ่งผ่านแต่ละเส้นไปโดยไม่ให้เจ้าของเส้นแตะได้ เมื่อเริ่มเล่นคนที่ยืนประจำเส้นแรก พูดว่า ไหล หรือ หลิ่น ฝ่ายตรงข้ามก็เริ่มวิ่งผ่านเส้นแรกไปจนถึงเส้นสุดท้ายแล้ววิ่งกลับ ถ้าวิ่งกลับถึงเส้นแรกโดยไม่ถูกฝ่ายตรงข้ามแตะได้ก็พูดว่า เตย ก็จะเป็นฝ่ายชนะ

การละเล่นว่าว


                                       

     โอกาสหรือเวลาที่เล่น

การเล่นว่าวต้องอาศัยกระแสลมเป็นสำคัญ กระแสลมที่แน่นอนจะช่วยให้เล่นว่าวได้สนุก จึงมักจะเล่นกันในราวเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ซึ่งถึงว่าเป็นช่วงที่ลมพัดแรงกระแสลมสม่ำเสมอที่เราเรียกกันว่า “ลมว่าว”

     ประโยชน์และคุณค่า

การแข่งขันว่าวเป็นกีฬาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไทยอย่างหนึ่ง เป็นศิลปะที่ต้องใช้ความสามารถของผู้ทำว่าวและผู้ชักว่าวเป็นอย่างมากต้องใช้ความประณีต ความแข็งแรง ความมีไหวพริบ และข้อสำคัญต้องอาศัยความพร้อมเพรียงด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

กาฟักไข่



                                        กาฟักไข่




      
     เป็นอีกหนึ่งการละเล่นที่เคยได้ยินชื่อ แต่หลายคนไม่ทราบกติกา โดยวิธีการเล่นก็คือ ใช้อะไรก็ได้ลักษณะกลม เท่าจำนวนคนเล่น ยกเว้นผู้ที่เป็นกา 1 คน มาสมมติว่าเป็น "ไข่" แล้วเขียนวงกลมลงบนพื้น 2 วง วงแรกมีขนาดใหญ่ และอีกวงหนึ่งอยู่ข้างในวงแรก ขนาดเล็กกว่าวงแรก วางไข่ทั้งหมดไว้ในวงเล็ก ให้คนใดคนหนึ่งเป็นกา ยืนในวงกลมวงใหญ่ หรือนั่งคร่อมวงกลมเล็ก นอกนั้นทุกคนยืนรอบนอกวงกลมวงใหญ่ คอยแย่งไข่ คนเป็นกามีหน้าที่ป้องกันไข่ ไม่ให้ถูกแย่งไป
                    กติกา
      ของกาฟักไข่ ผู้เล่นเป็นอีกาจะเข้าไปอยู่ในวงกลมที่ขีดไว้ คนอื่นๆอยู่นอกวงกลม พยายามแย่งเอาก้อนหินที่สมมุติว่าเป็นไข่มาให้ได้ อีกาจะปัดป่ายแขนขาไปมา ถ้าโดนผู้ใดผู้นั้นจะต้องมาเล่นเป็นอีกาแทนทันที แต่ถ้าไข่ถูกแย่งหมด อีกาจะต้องไปตามหาไข่ที่ผู้อื่นซ่อนไว้ให้เจอ หากหาไม่พบจะถูกจูงหูไปหาไข่ที่ซ่อนไว้ เพื่อเป็นการลงโทษ 



       ประโยชน์ 


ด้านสติปัญญา การละเล่นกาฟักไข่ทำให้เด็กได้ใช้ไหวพริบในการขยับแขนและขา เพื่อป้องกันไข่ และฝ่ายที่แย่งไข่ก็ต้องคิดว่าจะหลอกล่อผู้ที่เป็นกาอย่างไร เพื่อให้แย่งไข่ออกมาได้
ด้านอารมณ์ ทำให้เด็กมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน คลาดเครียด
ด้านร่างกาย เด็ก ๆ ให้ออกกำลังกาย ฝึกความว่องไวของแขนขาและตา  
ด้านจิตใจ ฝึกสมาธิ  เนื่องจากเด็กที่เป็นกาจะต้องมีใจจดจ่องคอยดูว่า ผู้เล่นคนใดจะแย่งไข่ ฝ่ายที่แย่งไข่ก็ต้องมีสมาธิรอจังหวะดี ๆในการจะเข้าไปแย่งไข่ออกมา 

วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

การละเล่นพื้นบ้าน ( รีรีข้าวสาร )

การละเล่นพื้นบ้าน ( รีรีข้าวสาร ) 
  

                     วิธีการเล่นชนิดนี้ความสนุกสนานอยู่ที่คำร้อง จังหวะของคำร้อง 



      วิธีเล่น
      1. ผู้เล่น 2 คนยืนหันหน้าเข้าหากันโน้มตัวประสานมือกันเป็นรูปซุ้ม
      2. ส่วนผู้อื่นเกาะเอวต่อ ๆ กันตามลำดับ
      3. หัวแถวจะพาลอดใต้ซุ้มมือพร้อมกับร้องบทร้องประกอบการเล่น
      4. เมื่อร้องถึงประโยคที่ว่า “คอยพานคนข้างหลังไว้” ผู้ที่ประสานมือเป็นซุ้มจะลดมือลงกันคนสุดท้ายไว้ ซึ่งคนสุดท้ายจะถูกคัดออกไปจากแถว แล้วจึงเริ่มต้นเล่นใหม่ทำเช่นนั้นจนหมดคน

      เพลงร้องประกอบ
       "รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก
       เด็กน้อยตาเหลือก เลือกท้องใบลาน
       คดข้าวใส่จาน คอยพานคนข้างหลังไว้"


      คุณค่า/แนวคิด/สาระ
      1. ออกกำลังกายพัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้แข็งแรง
      2. เพลิดเพลิน จิตใจร่าเริง แจ่มใส ยอมรับในกฎเกณฑ์กติกาในการเล่น
      3. หัดให้เด็กมีไหวพริบ ปฏิภาณ และรู้จักใช้กลยุทธที่จะให้ตนรอดจากการถูกคล้องตัวไว้
      4. หัดให้เด็กรู้จักทำงานเป็นกลุ่มโดยหัวแถวต้องพยายามพาแถว โดยเฉพาะคนสุดท้ายให้รอดพ้นจากการถูกกักตัวให้ได้






กระต่ายขาเดียว


กระต่ายขาเดียว




         กระต่ายขาเดียว

    จำนวนผู้เล่น
            ไม่จำกัดจำนวน


   วิธีเล่น


     ขีดเส้นแบ่งเขตบนพื้น และมีเขตจำกัดเส้นออกไว้ด้วย แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่ายเท่าๆ กัน ตกลงกันว่าใครจะเป็นกระต่ายก่อน กลุ่มที่เป็นกระต่ายจะคิดคำขึ้นหนึ่งคำ ให้มีพยางค์เท่ากับจำนวนคนในหมู่และจำต้องกำหนดพยางค์ให้แต่ละคนด้วย เมื่อคิดคำได้แล้วหมู่ที่เป็นฝ่ายเล่นทั้งหมดก็จะเป็นผู้เลือกว่า จะเอาพยางค์ใด ฝ่ายกระต่ายคนที่มีพยางค์ตรงกับที่โดนเลือกก็จะวิ่งกระโดดขาเดียวให้เร็วที่ สุด และไล่จับแตะคนในฝ่ายเล่น ถ้าคนใดโดนจับหรือถูกตัวกระต่ายก็ต้องออกจากการเล่น แต่ถ้ากระต่ายเปลี่ยนขาหรือขาแตะพื้นจะต้องเปลี่ยนเป็นกระต่ายตัวใหม่ที่ ฝ่ายเล่นจะเลือก เมื่อฝ่ายเล่นถูกไล่ตีจนหมดแล้วก็ถือว่าแพ้ ต้องมาเป็นฝ่ายกระต่ายบ้าง



  ตัวอย่างการเล่น


     ฝ่ายกระต่ายมีสมาชิก 4 คน ก็คิดคำ 4 พยางค์ เช่น ทุเรียนหมอนทอง คนแรกเป็น “ทุคนที่เป็นเรียน” คนที่เป็นหมอน” คนที่เป็นทอง” เมื่อฝ่ายเล่นเรียกทอง” คนที่เป็นทองต้องกระโดด ขาเดียวไล่จับคนฝ่ายเล่น ถ้าเท้าตกถึงพื้นฝ่ายเล่นจะเลือกคนใหม่อีก จนกว่าจะหมด ถ้าฝ่ายกระต่ายแตะได้ก่อน หรือฝ่ายเล่นวิ่งออกนอกเส้นแบ่งเขต จะหมดสิทธิ์เป็นฝ่ายเล่นต้องมาเป็นฝ่ายกระต่ายแทน



ประโยชน์ ที่ได้คือ

ด้านร่างกาย ได้ออกำลังกายทำให้มีร่างกายที่แข็งแรง 
ด้านสติปัญญา  ทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี ส่งผลให้พัฒนาการทางด้านสติปัญญาได้อย่างรวดเร็ว
ด้านอารมณ์  มีความเพลิดเพลิน มีสุนทรียภาพในการเล่น ร่าเริงแจ่มใส
ด้านสังคม ได้เข้ารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ทำให้รู้จักการอยู่รวมกันและเล่นกันเป็นหมู่คณะ